การตกไข่อย่างเจ็บปวด: สาเหตุ อาการ การรักษา

เป็นที่ทราบกันมานานแล้วว่ารอบประจำเดือนเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดหลักในการประเมินสุขภาพของผู้หญิง ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการไม่มีหรือมีอาการปวดการปรากฏตัวของเลือดไหลออกในช่วงมีประจำเดือนเราสามารถสรุปเกี่ยวกับการปรากฏตัวของพยาธิวิทยาทางนรีเวชอย่างใดอย่างหนึ่ง สัญญาณการวินิจฉัยที่สำคัญประการหนึ่งในระหว่างรอบประจำเดือนคือการมีอาการปวดระหว่างการตกไข่ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าภาวะนี้เกิดขึ้นเพียง 20% ของผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ทั้งหมด

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำว่า "การตกไข่"

รอบประจำเดือนเริ่มตั้งแต่วันแรกของการมีประจำเดือนจนถึงวันแรกของการมีประจำเดือนของรอบถัดไป ระยะเวลาของกระบวนการนี้แตกต่างกันไปในแต่ละคน และในสภาวะปกติคือ 21-35 วัน วงจรในอุดมคติทางนรีเวชวิทยาถือเป็นรอบประจำเดือนที่สอดคล้องกับรอบดวงจันทร์เต็ม (ยาวนาน 28 วัน) วัฏจักรประกอบด้วยหลายขั้นตอนต่อมา:

เฟสฟอลลิคูลาร์

ระยะฟอลลิคูลาร์ขึ้นอยู่กับอิทธิพลของเอสโตรเจนและถูกควบคุมโดยพวกมันอย่างสมบูรณ์ เอสโตรเจนมีส่วนร่วมในการกำหนดรูขุมขนที่โดดเด่นในรังไข่ซึ่งต่อมาจะเกิดไข่ในอนาคต ระยะเวลาของระยะนี้คือประมาณ 12-18 วัน และขึ้นอยู่กับความยาวของรอบทั้งหมด เมื่อมีรอบประจำเดือนในอุดมคติ (28 วัน) ระยะฟอลลิคูลาร์คือ 14 วัน ในระยะสุดท้ายของระยะฟอลลิเคิล ฟอลลิเคิล (ส่วนที่โดดเด่น) จะมีการพัฒนาสูงสุด มีความตึงเครียดและพร้อมที่จะแตกออก

ระยะตกไข่

ระยะนี้เป็นช่วงที่สั้นที่สุดในรอบประจำเดือนและเกิดขึ้นเพียง 12-36 ชั่วโมงเท่านั้น ในเวลานี้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายของผู้หญิงลดลง ส่งผลให้รูขุมขนหลักแตกและปล่อยไข่ที่โตเต็มที่ซึ่งพร้อมสำหรับการปฏิสนธิ ลักษณะเฉพาะของระยะนี้คือระดับของทั้งเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ (เอสโตรเจนหยุดถูกสังเคราะห์โดยฮอร์โมนกระตุ้นรูขุมขนเนื่องจากฟอลลิเคิลที่โดดเด่นและไข่ที่อยู่ข้างในได้เจริญเต็มที่แล้ว โปรเจสเตอโรนยังไม่ได้เริ่ม ที่จะสังเคราะห์ภายใต้อิทธิพลของฮอร์โมน luteinizing เนื่องจาก Corpus luteum ยังไม่ได้สร้างมาแทนที่รูขุมขนหลัก)

ระยะลูทีล

ในช่วงเวลาของวงจรนี้การสังเคราะห์ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเริ่มเพิ่มขึ้นในร่างกายซึ่งผลที่กระตุ้นให้เกิดกระบวนการเจริญในเยื่อบุมดลูกจึงเตรียมสำหรับการฝังไข่ที่ปฏิสนธิ หากการปฏิสนธิไม่เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดระยะ luteal ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะลดลง (corpus luteum ของการมีประจำเดือนตาย) ชั้นการทำงานของเยื่อบุโพรงมดลูกจะเริ่มถูกปฏิเสธซึ่งนำไปสู่การมีประจำเดือน

ดังนั้นการตกไข่จึงเป็นกระบวนการโดยตรงของการปล่อยไข่ที่พร้อมสำหรับการปฏิสนธิในช่วงเวลาที่รูขุมขนแตกออก การตกไข่อย่างเจ็บปวดในนรีเวชวิทยาเรียกว่า Mittelschmertz syndrome หรือ ovulatory syndrome

สัญญาณของการตกไข่

การตกไข่ (จากภาษาละติน "ไข่") มีลักษณะเฉพาะสัญญาณ ดังนั้นผู้หญิงทุกคนที่ประสบความเจ็บปวดหรือไม่สบายในระหว่างรอบเดือนนี้จึงสามารถระบุจุดเริ่มต้นได้อย่างถูกต้อง:

ปวดด้านซ้ายหรือด้านขวา

ความเจ็บปวดเกิดขึ้นที่ด้านใดด้านหนึ่ง ความแตกต่างของด้านข้างขึ้นอยู่กับว่ารังไข่ส่วนใดมีส่วนร่วมในรอบประจำเดือน (ในกรณีส่วนใหญ่จะสังเกตอาการปวดด้านขวาเนื่องจากรังไข่ด้านขวาจะให้เลือดและมีกระแสเลือดได้ดีกว่าและยังตั้งอยู่ใกล้กับภาคผนวก) .

ส่วนใหญ่อาการปวดจะเล็กน้อยและทำให้รู้สึกไม่สบายเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี ผู้หญิงอาจมีอาการปวดตะคริว ถูกแทง หรือถูกบาดแผล ระยะเวลาของความรู้สึกดังกล่าวใช้เวลา 1 ชั่วโมงถึง 1-2 วัน ความรุนแรงของความเจ็บปวดขึ้นอยู่กับ:

เกณฑ์ความไวต่อความเจ็บปวด - ยิ่งเกณฑ์สูงเท่าใดความเจ็บปวดที่ผู้หญิงจะประสบในระหว่างการตกไข่ก็จะน้อยลงเท่านั้น

การปรากฏตัวของโรคทางนรีเวชเพิ่มความเจ็บปวด;

ตัวละคร - ผู้หญิงที่มีอารมณ์โดยธรรมชาติมากกว่าจะพบกับความรู้สึกเจ็บปวดที่สดใสยิ่งขึ้น

ดังนั้นระยะเวลาของการตกไข่จึงค่อนข้างสั้นและอาการปวดท้องส่วนล่างอาจคงอยู่ได้นาน 1-2 วัน เนื่องจากรังไข่เพียงข้างเดียวสามารถมีส่วนร่วมในแต่ละรอบประจำเดือน (และการตกไข่ตามลำดับ) (พวกมันทำงานสลับกัน) ความเจ็บปวดจะถูกแปลโดยตรงในบริเวณรังไข่ที่เกี่ยวข้อง

ค่อนข้างหายาก แต่อาจเกิดขึ้นได้ว่ารังไข่ทั้งสองข้างมีส่วนร่วมในการทำงานพร้อมกันและไข่สองฟองก็สุกพร้อมกัน โดยปกติแล้ว เมื่อการปฏิสนธิสำเร็จ สถานการณ์นี้จะสิ้นสุดลงในการตั้งครรภ์แฝด ความรู้สึกเจ็บปวดในกรณีนี้อาจปรากฏทั้งสองด้านหรือแสดงออกมาในรูปแบบของความเจ็บปวดที่กระจายไปทั่วช่องท้องส่วนล่าง

ความใคร่ที่เพิ่มขึ้น

ความต้องการทางเพศหรือความใคร่เพิ่มขึ้นในระดับหนึ่งในระหว่างการตกไข่ซึ่งมีอยู่ในธรรมชาติของร่างกายผู้หญิง (การตกไข่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการปฏิสนธิและตามด้วยการให้กำเนิด)

ปลดประจำการ

ก่อนที่การตกไข่จะเริ่มขึ้น ณ ช่วงเวลาที่เกิดการตกไข่และเป็นเวลาหลายวันต่อไป ลักษณะของตกขาวจะเปลี่ยนไป ความสม่ำเสมอของพวกมันจะกลายเป็นของเหลวและหนืดมากขึ้น (คล้ายกับไข่ขาว) จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงสารคัดหลั่งดังกล่าวเพื่อช่วยให้อสุจิสามารถแทรกซึมเข้าไปในโพรงมดลูกและช่วยให้ไข่สุกได้มากขึ้น ลักษณะความสม่ำเสมอของตกขาวในช่องปากมดลูกที่ขยายตัวช่วยให้กระบวนการเคลื่อนตัวอสุจิเข้าไปในโพรงมดลูกได้อย่างมาก

การเปลี่ยนแปลงของสีที่ปล่อยออกมา

ระหว่างการตกไข่และในช่วงเวลาสั้นๆ หลังจากนั้น สีของตกขาวอาจเปลี่ยนไป กลายเป็นสีชมพูหรืออาจมีเลือดหยดอยู่สองสามหยดบนผ้า นี่เป็นเพราะความจริงที่ว่าเยื่อบุโพรงมดลูกหลุดออกไปเล็กน้อย (เอสโตรเจนหยุดการผลิตและยังไม่ได้สังเคราะห์ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน)

ความรุนแรงของต่อมน้ำนม

ในระหว่างการตกไข่ อาจมีอาการเจ็บเต้านมและกดเจ็บ นี่เป็นเพราะความจริงที่ว่าต่อมน้ำนมกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์และให้นมบุตรในภายหลัง Mastodynia (อาการเจ็บหน้าอกระหว่างการตกไข่) เกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นๆ และสิ้นสุดก่อนที่จะสร้าง Corpus luteum

สาเหตุ

อาการปวดระหว่างการตกไข่อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ก่อนที่ไข่จะออกจากฟอลลิเคิล ไข่จะต้องโตเต็มที่และเพิ่มขนาดอย่างมีนัยสำคัญ

ขนาดที่สำคัญของรูขุมขนจะสร้างแรงกดดันต่อแคปซูลรังไข่ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความเจ็บปวดก่อนเริ่มมีการตกไข่

หลังจากที่รูขุมขนที่โดดเด่นถึงขนาดและระดับการพัฒนาที่ต้องการ มันจะแตกออกและไข่ที่เสร็จแล้วจะถูกปล่อยออกสู่ช่องท้อง

เมื่อรูขุมขนแตกนอกเหนือจากไข่แล้วของเหลวจำนวนหนึ่งจะแทรกซึมเข้าไปในช่องท้องซึ่งจะทำให้เยื่อบุช่องท้องระคายเคือง นอกจากนี้แคปซูลรังไข่ยังได้รับความเสียหายและหลอดเลือดขนาดเล็กแตกในผนัง เนื่องจากการหลั่งเลือดแม้แต่น้อยก็เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุช่องท้องด้วย

อาการปวดที่จู้จี้ดังกล่าวสามารถรบกวนผู้หญิงได้แม้กระทั่ง 12-48 ชั่วโมงหลังจากสิ้นสุดระยะตกไข่ อย่างไรก็ตามหลังจากการดูดซึมของเหลวฟอลลิคูลาร์และเลือดในช่องท้องอาการปวดจะหายไป

เนื่องจากเมื่อไข่ถูกปล่อยออกสู่ช่องท้อง การบีบตัวของท่อนำไข่จะถูกกระตุ้นเพื่อจับไข่ให้พร้อมสำหรับการปฏิสนธิได้สำเร็จและทันท่วงที และมั่นใจว่าไข่จะเข้าสู่ตัวอสุจิ ผลของกระบวนการนี้จึงสามารถคงความเจ็บปวดไว้ได้

สัญญาณทางอ้อมของการตั้งครรภ์ในอนาคตคือความเจ็บปวดในช่วงกลางของรอบเดือน

อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี อาการปวดระหว่างการตกไข่จะรุนแรงกว่า อาการนี้เกิดขึ้นไม่เพียงเพราะผู้หญิงมีเกณฑ์ความไวต่ำกว่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโรคทางนรีเวชด้วยเช่น:

โรคกาวของกระดูกเชิงกรานซึ่งเกิดขึ้นในที่ที่มีกระบวนการอักเสบเรื้อรังหลังการผ่าตัดหรือมีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

การยึดเกาะป้องกันการหดตัวของท่อนำไข่ตามปกติ รังไข่จะแน่นเกินไป และในบางกรณีแม้แต่แคปซูลรังไข่ก็หนาขึ้น ซึ่งนำไปสู่ความเจ็บปวดเพิ่มขึ้น

ประเภทของการตกไข่

ในนรีเวชวิทยา การตกไข่มีหลายประเภท:

• ทันเวลา;

  คลอดก่อนกำหนด

การตกไข่ก่อนกำหนดหมายความว่าการสุกและการปล่อยไข่ออกจากฟอลลิเคิลไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงกลางของวงจร แต่เกิดขึ้นเร็วกว่านั้น อาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ:

พยาธิวิทยาต่อมไร้ท่อและความผิดปกติของฮอร์โมน

โรคต่าง ๆ รวมถึงโรคทางนรีเวช

ประสบการณ์ทางอารมณ์และความเครียดที่รุนแรง

เพิ่มการออกกำลังกายในร่างกายหรือการยกน้ำหนัก

การมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงเกินไป

สาเหตุของการตกไข่ช้ารวมถึงปัญหาฮอร์โมนต่างๆ ซึ่งรวมถึงความผิดปกติของประจำเดือน

ในกรณีที่มีการตกไข่ประเภทต่างๆ ที่อธิบายไว้ข้างต้น ความรู้สึกเจ็บปวดจะไม่เกิดขึ้นในช่วงกลางของรอบ แต่จะเร็วกว่ามากหรือหลังจากนั้นมาก ซึ่งมักเป็นสาเหตุที่ผู้หญิงต้องติดต่อผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นสัญญาณทางอ้อมของการตั้งครรภ์ในอนาคต ได้แก่ อาการปวดในช่วงกลางของรอบเดือน

การตกไข่

เมื่อพูดถึงหัวข้อการตกไข่ คุณไม่ควรพลาดปัญหาเช่นการตกไข่หรือการตกไข่ โดยปกติการตกไข่จะสังเกตได้เฉพาะในสตรีวัยหมดประจำเดือนและวัยก่อนหมดประจำเดือนเท่านั้น เช่นเดียวกับในสตรีมีครรภ์ นอกจากนี้การตกไข่จะหายไปเมื่อรับประทานฮอร์โมนคุมกำเนิด

หากผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์ทนทุกข์ทรมานจากการไม่มีการตกไข่เป็นเวลาหลายรอบติดต่อกันก็ควรให้ความสนใจกับสิ่งนี้เพราะถ้าไม่มีการตกไข่ก็ไม่มีไข่ซึ่งจะทำให้การตั้งครรภ์เป็นไปไม่ได้

ในกรณีส่วนใหญ่ สาเหตุของการตกไข่คือความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกายซึ่งควรหยุดการรักษาด้วยการรักษาที่เหมาะสมและผู้หญิงก็มีโอกาสตั้งครรภ์ เพื่อชี้แจงวันที่ตกไข่ก็เพียงพอที่จะใช้การทดสอบการตกไข่แบบพิเศษหรือทำอัลตราซาวนด์ซึ่งแพทย์จะตรวจสอบรูขุมขนที่โดดเด่นที่เป็นผู้ใหญ่และปล่อยออกจากไข่อย่างแม่นยำ (เห็นได้ชัดว่าควรทำอัลตราซาวนด์ซ้ำ ๆ ภายในกรอบที่คาดหวัง ของกระบวนการตกไข่)

จะทำให้ง่ายขึ้นได้อย่างไร?

ไม่ว่าผู้หญิงจะมั่นใจแค่ไหนว่าอาการปวดท้องด้านซ้ายหรือขวานั้นสัมพันธ์กับกระบวนการตกไข่เธอไม่ควรหันไปพึ่งยาด้วยตนเอง ทางที่ดีควรขอความช่วยเหลือจากแพทย์ สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในช่วงกลางของรอบประจำเดือนอาจเกิดจากการมีโรคและไม่เพียงแต่ทางนรีเวชเท่านั้น

ในระหว่างการตรวจแพทย์จะต้องยกเว้นสาเหตุอื่น ๆ ของความเจ็บปวดและกำหนดทางเลือกการรักษาที่เหมาะสมที่สุด

ในกรณีที่อาการการตกไข่รบกวนผู้หญิงในแต่ละรอบ แพทย์แนะนำให้พยายามผ่อนคลายให้ได้มากที่สุดในช่วงนี้ หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ตึงเครียด และควบคุมอาหาร

โภชนาการเพื่อการรักษาควรจำกัดอาหารและอาหารที่สามารถทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานหนักเกินไป เพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้ และทำให้ความเจ็บปวดรุนแรงขึ้น กระตุ้นให้เกิดอาการท้องอืด และกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ประการแรกสิ่งนี้ใช้ได้กับชาและกาแฟรสเข้มข้น ช็อคโกแลต กะหล่ำปลีขาวและพืชตระกูลถั่ว อาหารที่มีไขมันและเผ็ด

การอาบน้ำอุ่นโดยใช้น้ำมันหอมระเหยหรือพืชสมุนไพรก็ช่วยบรรเทาอาการปวดได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ที่จะใช้ความร้อนที่ช่องท้องส่วนล่างซึ่งจะช่วยลดแรงหดตัวของท่อและมดลูกและบรรเทาอาการปวด อย่างไรก็ตามการบำบัดดังกล่าวเป็นไปได้เฉพาะในกรณีที่ไม่มีโรคทางการผ่าตัดและกระบวนการติดเชื้อเฉียบพลัน

ในบรรดายาแก้ปวดยาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ซึ่งไม่เพียง แต่สามารถขัดขวางการผลิตพรอสตาแกลนดินเท่านั้น แต่ยังช่วยบรรเทาอาการอักเสบและความเจ็บปวดได้อีกด้วย (Ketoprofen, Naproxen, Indomethacin, Ibuprofen)

Antispasmodics ("Spazmalgon", "Spazgan", "No-shpa") ก็มีผลในเชิงบวกเช่นกัน

หากกลุ่มอาการการตกไข่ยังคงอยู่ นรีแพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาคุมกำเนิด ซึ่งช่วยป้องกันการตกไข่ และป้องกันความเจ็บปวดตามลำดับ อย่างไรก็ตามหากผู้หญิงกำลังวางแผนตั้งครรภ์ก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาดังกล่าว คุณไม่ควรใช้แผ่นความร้อนที่ช่องท้องส่วนล่างหรือทานยาใด ๆ ในวันที่ตกไข่เพราะอาจทำให้คุณภาพของไข่ลดลงได้

อาการปวดอย่างรุนแรง

ในบางกรณี อาจเกิดอาการปวดอย่างรุนแรงในช่วงกลางของรอบเดือน การมีอาการปวดอย่างรุนแรงในรังไข่บริเวณขาหนีบทั้งสองข้างอาจเป็นสัญญาณของภาวะฉุกเฉิน:

กลุ่มอาการกระตุ้นรังไข่มากเกินไปที่เกิดจากยา

การแตกของถุง;

ไส้ติ่งอักเสบ;

การบิดของหัวขั้วถุง;

โรคลมชักของรังไข่;

การตั้งครรภ์นอกมดลูก;

การอักเสบเฉียบพลันของอวัยวะ

เงื่อนไขแต่ละข้อข้างต้นเป็นข้ออ้างสำหรับการรักษาพยาบาลฉุกเฉิน และส่วนใหญ่มักมีความจำเป็นในการผ่าตัดด้วยซ้ำ ดังนั้นความล่าช้าไม่เพียงแต่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงเท่านั้น แต่ยังทำให้เสียชีวิตได้อีกด้วย คุณไม่สามารถรอความเจ็บปวดสาหัสที่รุนแรงมากและพยายามบรรเทามันด้วยตัวเองได้ คุณต้องโทรเรียกรถพยาบาลทันที

เมื่อใดควรส่งเสียงเตือน

ควรไปพบแพทย์ฉุกเฉินหากมีอาการปวดอย่างรุนแรงที่ช่องท้องส่วนล่าง และ/หรือหากมีอาการต่อไปนี้:

การเสื่อมสภาพของความก้าวหน้า;

เป็นลมอย่างกะทันหัน;

ประวัติของ endometriosis, การผ่าตัด, โรคทางนรีเวชเฉียบพลัน;

เมื่อทานยาที่กระตุ้นการตกไข่

การปรากฏตัวของเลือดไหลออกจากช่องคลอดโดยไม่คำนึงถึงระดับความรุนแรง

การเกิดอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนอย่างรุนแรง

เพิ่มอุณหภูมิของร่างกายและคงไว้นานกว่าหนึ่งชั่วโมง

มีอาการปวดนานกว่า 2 วัน